หากพูดถึงเทคโนโลยีกำจัดขนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ก็คงไม่พ้นเทคโนโลยี “Diode Laser” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ไม่เป็นอันตรายปลอดภัยต่อผิว อีกทั้งยังสามารถส่งคลื่นพลังงานไปใต้ชั้นผิวได้อย่างเสถียรมากขึ้น ทำให้สามารถลดปัญหาผิวที่ไม่พึงประสงค์ เช่นไหม้ รอยดำหลังทำ หรือ อาการเจ็บได้เป็นอย่างดี โดยในบทความนี้ Drema Clinic จะพาคุณมาทำความรู้จักเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับ Diode Laser ว่าคืออะไร? เหมาะกับใครบ้าง? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร? รวมถึงไขคำตอบว่า Diode Laser กี่วันขนหลุด? พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Diode Laser VS YAG Laser ใครที่วางแผนจะใช้บริการเลเซอร์กำจัดขนต้องติดตามต่อให้จบ!
ทำความรู้จัก Diode Laser คืออะไร?
ก่อนที่เราจะไปไขข้อสงสัยกันว่า Diode Laser กี่วันขนหลุด Drema Clinic จะพาคุณมาทำความรู้จัก Diode Laser รวมถึงหลักการทำงานของ Diode Laser ให้เข้าใจมากขึ้นกันก่อน
โดย Diode Laser คือ เทคโนโลยีเลเซอร์กำจัดขน ที่สามารถกำจัดขนได้แบบถอนรากถอนโคน
ซึ่ง Diode Laser แต่ละเครื่องมีความสามารถ คุณสมบัติ ความเสถียรของเครื่องที่ต่างกัน Diode Laser เป็นเพียงชื่อชนิดของเลเซอร์เท่านั้น ซึ่งจะมีหลายรุ่น ยี่ห้อ Diode Laser ที่เดรม่าเลือกใช้ คือ Mediostar
ความพิเศษของเครื่องนี้คือเป็นการยิงพลังงานเลเซอร์ในระดับความยาวคลื่นที่เหมาะสมลงไปใต้ชั้นผิวเพื่อทำลายรากขน และเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ทำลายสเต็มเซลล์ ของคนซึ่งเป็นต้นตอหรือต้นกำเนิดการเกิดขน ที่สำคัญทำลายเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงเส้นขน
ทำให้กำจัดขนและป้องกันการเกิดขนอีกด้วย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้อีกด้วย ทำให้ขนขึ้นใหม่บางลงเรื่อย ๆ จนสังเกตได้ยาก และลดปัญหาที่เกิดจากรูขุมขนอย่างขนคุดได้เป็นอย่างดี
ซึ่งเครื่อง Diode Laser จะมีระดับความยาวคลื่นให้แพทย์สามารถปรับใช้ตามสภาพผิวของคนไข้ได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่ 800-810 นาโนเมตร, 940 นาโนเมตร นอกจากนี้ยังมีระบบความเย็นบริเวณหัวเลเซอร์ (Semiconductor Cooling) ที่ช่วยลดความเจ็บระหว่างยิงส่งพลังงานลงไปยังชั้นผิว และลดอาการแสบร้อน ผิวไหม้ ผิวเบิร์นหลังทำได้ด้วย หมดปัญหาผลข้างเคียงหลังการทำเลเซอร์กำจัดขน
Diode Laser ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
นอกจาก Diode Laser จะโดดเด่นเรื่องการกำจัดเส้นขนแบบถอนรากถอนโคน ได้แทบทุกส่วนของร่างกายโดยไม่สร้างความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อที่อยู่โดยรอบแล้ว ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใส กระชับ และเรียบเนียนมากขึ้นได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาที่เกิดจากรูขุมขนอย่างขนคุด และตุ่มหนังไก่ได้เป็นอย่างดี
- กำจัดเส้นขนแบบถอนรากถอนโคนโดยไม่สร้างความเสียให้หายให้เนื้อเยื่อ และไม่เกิดการระคายเคือง
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวบริเวณนั้นดูกระจ่างใสและกระชับมากขึ้น
- ลดปัญหาขนคุดและตุ่มหนังไก่
- ลดรอยแดงจากสิว ผิวอักเสบ
Diode Laser กี่วันขนหลุด?
หากสงสัยว่า Diode Laser กี่วันขนหลุด? คำตอบคือ เส้นขนจะเริ่มหลุดร่วงไปจนหมดภายใน 1 สัปดาห์แรก จากนั้น เส้นขนใหม่จะกลับขึ้นมาอีกครั้งในช่วง 2-4 สัปดาห์ แต่สีของเส้นขนจะเริ่มจางลง และเส้นขนจะมีลักษณะอ่อนนุ่มลงเรื่อย ๆ ทั้งนี้ หากต้องการให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนควรจะทำต่อเนื่องอย่างน้อย 5-7 ครั้ง เว้นระยะห่างครั้งละ 4-8 สัปดาห์ และในช่วงหลังสามารถเว้นความถี่ออกไปได้เรื่อย ๆ ที่สำคัญ หากไม่กำจัดขนอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ผลลัพธ์ได้ไม่ชัดเจน และหากเว้นระยะนานเกินกว่า 3-4 เดือน อาจจะต้องเริ่มการรักษาแบบนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง
Diode Laser กำจัดขนส่วนไหนได้บ้าง?
เนื่องจาก Diode Laser สามารถปรับค่าพลังงานได้หลายระดับ ทำให้สามารถใช้กำจัดขนได้หลายบริเวณ โดยไม่ทำให้ผิวบริเวณโดยรอบได้รับความเสียหาย ซึ่งบริเวณที่สามารถกำจัดขนด้วย Diode Laser ได้ มีดังนี้
- เลเซอร์บริเวณใบหน้า ขนหน้า เครา หนวด
- เลเซอร์บริเวณรักแร้
- เลเซอร์ขนขา
- เลเซอร์ขนแขน
- เลเซอร์ขนบริเวณลำตัว ขนหน้าอก หน้าท้อง
- เลเซอร์ขนบิกินี บาซิเลี่ยน
- เลเซอร์บริเวณข้อนิ้ว เหมาะกับสาวๆที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์
- เลเซอร์บริเวณรอบลานนม
ข้อดี-ข้อเสียของ Diode Laser
สำหรับข้อดี-ข้อเสียของ Diode Laser ที่ Drema Clinic รวบรวมมาให้ จะช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า Diode Laser เหมาะกับคุณหรือไม่ แล้ว Diode Laser มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ไปดูกัน
ข้อดีของ Diode Laser
- เหมาะกับทุกสภาพผิวและสีผิว เพราะมีความยาวคลื่นให้เลือกหลากหลาย
- มีระบบความเย็นบริเวณหัวเลเซอร์ ช่วยลดอาการผิวไหม้ ผิวเบิร์นหลังเลเซอร์ และลดความเจ็บขณะทำ
- สามารถส่งคลื่นพลังงานได้ถึงผิวชั้นลึก ซึ่งจะช่วยกำจัดขนได้แบบถอนรากถอนโคน
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวบริเวณที่ทำดูกระจ่างใสขึ้น
- ลดปัญหาที่เกิดจากรูขุมขนอย่างขนคุดได้เป็นอย่างดี
- มีความปลอดภัย เพราะตัวเครื่องได้รับการรับรองความปลอดภัยจากทั้ง ยุโรป FDA และ อย.ไทย
- มีโหมดลดรอยแดง จากสิว ทั้งบริเวณหน้า และลำตัว
- สำหรับคนที่กลัวเจ็บ ไม่กล้าเลเซอร์กำจัดขนบริเวณที่ ผิวบาง Mediostar diode laser มีโหมด “Painless” แทบจะไม่เจ็บ หลักการคือ ปล่อยพลังงานน้อยๆ ในความถี่ที่มาก แทนการปล่อยพลังงานมากในครั้งเดียว ได้ผลลัพธ์เท่ากันแต่เจ็บน้อยกว่า
ข้อเสียของ Diode Laser
อาจไม่เหมาะกับคนที่มีผิวแทน หรือผิวเข้ม และเส้นขน ขาว
Diode Laser เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการกำจัดขนกับเครื่องกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด และอยากให้ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน
- ผู้ที่มีปัญหาขนคุดและตุ่มหนังไก่จากการกำจัดขนด้วยวิธีแวกซ์ โกน หรือถอน
- ผู้ที่ต้องการวิธีกำจัดขนที่อ่อนโยน รู้สึกเจ็บน้อย
- ผู้ที่มีเส้นขนค่อนข้างหนา และมีสีเข้มเป็นพิเศษ
- ผู้ที่ต้องการปรับผิวให้กระจ่างใสและเรียบเนียนไปพร้อม ๆ กับการกำจัดเส้นขน
- ผู้ที่ต้องการกำจัดขนแต่กลัวเจ็บ
- ผู้ที่ต้องการลดรอยแดง
Diode Laser ไม่เหมาะกับใคร?
แม้ว่าการกำจัดขนด้วย Diode Laser จะมีความปลอดภัยสูง แต่เนื่องจาก Diode Laser จะมีการปล่อยพลังงานเข้าไปใต้ชั้นผิว ทำให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงการกำจัดขนไปก่อน เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง
- สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่ต้องให้นมบุตร เพราะไม่มีการศึกษาวิจัยในข้อมูลส่วนนี้
- ผู้ที่อยู่ในกลุ่มผู้ป่วยโรคผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อ ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นต้น เนื่องจากยาทาบางชนิดที่ใช้ในการรักษา อาจทำให้ผิวบางลง ทำให้มีโอกาสเกิดอาการผิวด่างหลังการกำจัดขนได้
- ผู้ที่มีสิวอักเสบ หรือสิวหนอง และผู้ที่มีแผลสดหรือแผลผ่าตัดที่ยังไม่ครบ 6 เดือน เนื่องจากอาจเกิดอาการติดเชื้อได้ หากต้องการกำจัดขนด้วย Diode Laser ควรรับการรักษาให้หายดีก่อน
สิ่งที่ควรปฏิบัติก่อนทำ Diode Laser
สำหรับคนที่จองคิวไปทำ Diode Laser จะต้องมีการปฏิบัติตัวก่อนทำ Diode Laser ดังนี้
- งดการกำจัดขน เช่น การถอน แวกซ์ โกน เป็นต้น บริเวณที่ต้องการทำ Diode Laser ก่อนเข้ารับบริการประมาณ 2 สัปดาห์
- งดการทาครีมที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA ก่อนเข้ารับบริการ 1 วัน เพราะครีมที่มีส่วนผสมเหล่านี้ จะทำให้ผิวไวต่อแสงและความร้อน
- งดการสครับผิวก่อนทำเลเซอร์อย่างน้อย 3-5 วัน
- ก่อนเข้ารับบริการอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวโดนแดดโดยตรง และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวระคายเคือง
- ทาครีมที่ให้ความชุ่มชื้น เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือแสบร้อนระหว่างทำ Diode Laser
- สำหรับผู้หญิงที่ต้องการเลเซอร์บิกินี ควรงดการทำเลเซอร์ในช่วงที่มีประจำเดือน
- ในวันที่เข้ามาใช้บริการ แนะนำให้สวมเสื้อผ้าที่สบาย ไม่รัดแน่น เพื่อป้องกันการเสียดสีหลังทำเลเซอร์
ขั้นตอนการทำ Diode Laser
ก่อนจะทำ Diode Laser ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอว่า ตนเองเหมาะกับการทำเลเซอร์ชนิดนี้หรือไม่ และสำหรับผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนัง ก็ควรจะรักษาให้หายก่อนเข้าใช้บริการ โดยขั้นตอนการทำ Diode Laser มีดังนี้
- เจ้าหน้าที่จะทำการโกนขนและทำความสะอาดผิวบริเวณที่ต้องการทำเลเซอร์ไดโอดเจ้าหน้าที่จะทายาชา หรือแปะเจลเย็นบริเวณที่ต้องการทำทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
- แพทย์จะปรับค่าพลังงานให้เหมาะกับสภาพสีผิวและสภาพเส้นขน เพื่อประสิทธิภาพการกำจัดขนที่ดีและเห็นผลมากที่สุด
- ใช้เครื่องมือยิงเลเซอร์ลงบนผิวเพื่อกำจัดขน โดยในขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการกำจัดขน ทั้งนี้ หากคนไข้รู้สึกเจ็บขณะเลเซอร์ขนสามารถแจ้งแพทย์ให้ลดพลังงานลงได้
- การบริเวณผิวบางสามารถใช้เครื่อง เป่าลมเย็นเสริมเพื่อลดความเจ็บได้
- หลังจากยิงเลเซอร์เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะทาครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และบรรเทาอาการระคายเคือง
สิ่งที่ควรปฏิบัติหลังทำ Diode Laser
แม้ว่าหลังทำ Diode Laser จะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ก็ควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียง และช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาตามที่หวัง โดยสิ่งที่ควรปฏิบัติหลังทำ Diode Laser มีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำด้วยน้ำอุ่น หรือน้ำร้อน เพื่อป้องกันผิวแห้งและการระคายเคือง
- ทาโลชั่นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เพื่อบรรเทาอาการระคายเคือง และลดอาการแสบร้อน
- หลังทำประมาณ 1 สัปดาห์ ควรงดการถอน โกน หรือแวกซ์ขนที่ขึ้นใหม่ เพื่อป้องกันการระคายเคือง
- ควรงดการออกแดดโดยตรง และทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันอาการแดงและผิวไหม้
- หากรู้สึกแสบ ร้อน สามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านจนเกิดการระคายเคือง
- เข้ารับบริการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้น
ผลข้างเคียงหลังทำ Diode Laser มีอะไรบ้าง?
เนื่องจากการเลเซอร์ไดโอด จะเป็นการส่งคลื่นพลังงานลงไปใต้ชั้นผิวเพื่อกำจัดขนและเม็ดสี ทำให้อาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนี้
- อาจมีอาการบวมแดง แต่สามารถหายได้เองภายใน 1-2 วัน หากรู้สึกปวดสามารถประคบเย็นและทานยาเพื่อบรรเทาอาการได้
- ในบางรายที่มีผิวบอบบาง อาจเกิดผิวไหม้ได้ แต่มีโอกาสน้อยมาก
- ผิวบริเวณที่ทำอาจมีสีเข้มขึ้น แต่อาการเหล่านี้สามารถหายเอง
ทั้งนี้ หากพบว่ามีอาการปวดรุนแรง ผิวไหม้ หรือมีตุ่มน้ำพุพองเกิดขึ้น ควรจะเข้ารับการวินิจฉัยจากแพทย์ในทันที เพื่อให้แพทย์แนะนำวิธีรักษาและรับการรักษาที่เหมาะสม
เปรียบเทียบ Diode Laser กับ Yag laser ต่างกันอย่างไร?
ได้ทำความรู้จัก Diode Laser กันไปพอสมควรแล้ว คงจะมีหลายคนที่อยากทราบความแตกต่างระหว่าง Diode Laser กับ Yag Laser ซึ่งเป็นเทคโนโลยีกำจัดขนที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดยทั้ง 2 เครื่องจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
- การปรับค่าความยาวคลื่น: Diode Laser สามารถปรับค่าความยาวคลื่นได้หลายระดับ ได้แก่ 800-810 นาโนเมตร, 940 นาโนเมตร ในขณะที่ Yag Laser จะมีค่าความยาวคลื่นเพียงค่าเดียวคือ 1,064 นาโนเมตร ทำให้ Diode Laser มีความยืดหยุ่นมากกว่า รู้สึกเจ็บน้อยกว่า รวมถึงสามารถกำจัดเส้นขนได้ทั่วร่างกาย และเป็นคลื่นความยาวที่จำเพาะต่อสเต็มเซลล์ของขนมากที่สุด
- การทำงาน: Diode Laser จะส่งพลังงานเข้าไปทำลายรากขนพร้อม ๆ กับยับยั้งการทำงานของเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงรากขน ทำให้สามารถกำจัดเส้นขนได้แบบถอนรากถอนโคน ส่วน Yag Laser จะส่งพลังงานเข้าไปทำลายรากขนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
- ระบบทำความเย็น: Diode Laser จะมีระบบทำความเย็นบริเวณหัวเลเซอร์ ซึ่งจะช่วยลดอาการเบิร์น และป้องกันอาการผิวไหม้หลังทำได้ ในขณะที่ Yag Laser จะไม่มีระบบทำความเย็น หรือเป็นเครื่องพ่นไอเย็นที่แยกกันทำให้ผู้ใช้บริการบางรายรู้สึกเจ็บ แสบ หรือร้อนผิวบริเวณที่ทำได้มากกว่า
- สภาพเส้นขนและบริเวณที่ทำ: Diode Laser จะเหมาะกับคนที่มีผิวขาว และเหมาะกับการทำในพื้นที่กว้าง ๆ เช่น แขน ขา หน้าท้อง แผ่นหลัง เป็นต้น ส่วน Yag Laser จะเหมาะกับทุกสีผิวและทุกสภาพเส้นขน อีกทั้งยังสามารถทำได้ทั้งพื้นที่เล็กและใหญ่
ทำ Diode Laser ที่ไหนดี?
ได้ทำความรู้จัก Diode Laser กันมาพอสมควรแล้ว คงจะมีหลายคนที่สนใจการทำ Diode Laser อยู่ไม่น้อย ซึ่งถ้าคุณยังไม่มีคลินิกในใจและไม่รู้ว่าจะทำ Diode Laser ที่ไหนดี? Drema Clinic ก็พร้อมให้บริการคุณอย่างเต็มที่! โดยคุณสามารถดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงที่ Drema Clinic หรือทักเข้ามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางดังนี้
- โทร: 080-992-6964
- Facebook: Drema Clinic Aesthetics & Laser
- LINE: @dremaclinic
- Instagram: drema.clinic
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/5fcMQwpMyHodi5Ui8
รีวิว Diode Laser จากผู้ใช้บริการจริงกับ Drema Clinic
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Diode Laser
1. ทำ Diode Laser เจ็บไหม?
ในระหว่างทำ Diode Laser ผู้ใช้บริการจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บ เนื่องจากบริเวณหัวเลเซอร์จะมีระบบความเย็นที่ช่วยลดอาการระคายเคือง อีกทั้งก่อนยิงเลเซอร์ยังมีการทาเจลเย็นลงบนผิว ในระหว่างทำจึงมีเพียงความรู้สึกอุ่น ๆ เท่านั้น ถ้ากลัวเจ็บสามารถทายาชา หรือ เครื่องเป่าลมเย็นลดอาการเจ็บเพิ่มเติมได้
2. Diode Laser ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
ควรทำ Diode Laser ต่อเนื่องอย่างน้อย 5-7 ครั้ง ทั้งนี้ จำนวนครั้งในการทำเลเซอร์จะขึ้นอยู่กับปริมาณ สี และความหนาของเส้นขน และบริเเวณที่กำจัดขนรวมถึงระดับฮอร์โมนของผู้เข้ารับบริการแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน
3. Diode Laser ควรห่างกันนานเท่าไหร่?
การทำ Diode Laser ในแต่ละครั้ง ควระเว้นระยะห่างครั้งละ 4-6 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการอักเสบและระคายเคือง
4. Diode Laser กี่วันขนหลุด?
เส้นขนจะเริ่มหลุดร่วงไปจนหมดภายใน 1-2 สัปดาห์แรก จากนั้น เส้นขนใหม่จะกลับขึ้นมาอีกครั้งในช่วง 4 สัปดาห์ แต่สีของเส้นขนจะเริ่มจางลง และเส้นขนจะมีลักษณะอ่อนนุ่มลงเรื่อย ๆ
กำจัดขนเพิ่มความมั่นใจด้วย Diode Laser ที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยกับ Drema Clinic
เมื่อได้ทำความรู้จัก Diode Laser กันไปพอสมควรแล้ว ก็คงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม Diode Laser ถึงเป็นเทคโนโลยีกำจัดขนที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้ เพราะนอกจากจะสามารถกำจัดขนได้แบบถอนรากถอนโคนแล้ว ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์กระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วย ทั้งนี้ สำหรับคนที่สนใจการทำ Diode Laser ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และให้บริการโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ แพทย์ผิวหนัง เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังทำ
และถ้าหากคุณยังไม่มีคลินิกที่ถูกใจ Drema Clinic ก็พร้อมให้บริการคุณอย่างเต็มที่! เพราะนอกจากเราจะเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานแล้ว ยังมีบริการ Diode Laser ที่มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงให้คุณเปรียบเทียบผลลัพธ์ได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการจองคิวเข้ารับบริการ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ผ่านช่องทางดังนี้
- โทร: 080-992-6964
- Facebook: Drema Clinic Aesthetics & Laser
- LINE: @dremaclinic
- Instagram: drema.clinic
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/5fcMQwpMyHodi5Ui8