ปัญหาร่องแก้มลึก เป็นปัญหาที่บ่งบอกถึงอายุที่เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยร่องแก้มจะเริ่มลึกขึ้นเมื่ออายุ 25 ปี และจะลึกขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาร่องแก้มที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันก็คือ การเติมฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพื่อเติมเต็มและปรับแก้ไขบริเวณร่องแก้มที่ยุบตัวลงให้กลับมาอิ่มฟูโดยไม่ต้องผ่าตัด แน่นอนว่าในบทความนี้ Drema Clinic จะพาคุณมาทำความรู้จักกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม พร้อมไขคำตอบที่หลาย ๆ คนสงสัย ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาร่องแก้มลึกเกิดจากอะไร? ร่องแก้มของแต่ละบุคคล มีสาเหตุแตกต่างกัน ไม่ใช่ร่องแก้มทุกชนิดที่สามารถแก้ไขได้โดยฟิลเลอร์ แต่ก็มีการแก้ไขด้วยวิธีอื่น ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม? ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้ม? และหากปัญหาร่องแก้มเกิดจากสาเหตุอื่น มีวิธีแก้ไขได้อย่างไร ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมีข้อห้ามอะไรบ้าง ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันได้เลย
ปัญหาร่องแก้มลึกเกิดจากอะไร?
ปัญหาร่องแก้มลึก คือ เส้นร่องแก้ม หรือร่องลึกจากข้างปีกจมูกไปจนถึงมุมปาก จนเห็นลักษณะร่องซึ่งอาจจะเกิดจากร่องลึกหรือเส้นที่พับลงมาเห็นเป็นร่อง ซึ่งปัญหาร่องแก้มลึกมีสาเหตุมาจาก 6 ปัจจัย ดังนี้
- การยุบตัวของกระดูกบริเวณหน้าแก้ม เมื่ออายุมากขึ้นกระดูกจะมีการทรุดตัวลง เมื่อกระดูกบริเวณหน้าแก้มยุบตัวลง ทำให้เนื้อแก้มที่อยู่ด้านบนกระดูกหย่อนลงมากองเหนือร่องแก้ม มักพบในคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป สามารถแก้ได้โดยการเติมฟิลเลอร์บริเวณหน้าแก้ม
- การยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้ม มักพบในคนที่อายุ 20-30 ปี ซึ่งร่องแก้มจะยังไม่ลึกมาก สามารถแก้ไขด้วยการเติมฟิลเลอร์ร่องแก้มได้เพียงวิธีเดียวเท่านั้น โดยจะเป็นการเติมเข้าไปบริเวณชั้นกระดูก
- การแสดงสีหน้าบ่อย ๆ จนกล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มแข็งแรงเกินไป สามารถแก้ไขได้โดยการฉีดโบท็อกควบคู่กับการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- เกิดจากผิวแห้ง หรือตากแดดบ่อยจนทำให้ผิวบางลง จะมีลักษณะเป็นริ้วตื้น ๆ บริเวณร่องแก้ม การเติมฟิลเลอร์ร่องแก้มจะช่วยเติมความชุ่มชื้นลงบนผิวหนังและช่วยเติมเต็มร่องแก้มให้ตื้นขึ้นได้ ร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์ Skin booster หรือ ใช้เนื้อฟิลเลอร์โมเลกุลเล็กฉีดบนผิวชั้นบน
- ไขมันบริเวณหน้าแก้มที่ห้อยย้อย เมื่อเราอายุมากขึ้นไขมันชั้น (Superficial fat pad) จะมีปริมาณที่มากขึ้น จนเคลื่อนตัวลงมาสะสมบริเวณด้านล่างของใบหน้า ทำให้แก้มดูห้อยย้อย เกิดลักษณะเป็นร่องแก้มได้
- ไขมันบริเวณร่องแก้มลดลง เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันใต้ชั้นผิวหนังบริเวณใบหน้าและร่องแก้มบางส่วนจะสลายหายไป ทำให้เกิดปัญหาร่องแก้มลึก
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มคืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทสารไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เข้าไปปรับแก้ไขตำแหน่งของร่องแก้มทั้งชั้นกระดูกและชั้นไขมัน ซึ่งจะช่วยให้ผิวบริเวณนั้นมีความอิ่มฟู ยืดหยุ่นได้ดีขึ้น และช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยอะไรบ้าง?
- แก้ปัญหาร่องแก้มลึก และปัญหาหน้าหย่อนคล้อย
- แก้ปัญหาแก้มห้อยที่ทำให้ดูมีอายุ
- แก้ปัญหา กระดูกหน้าแก้มที่ทรุดตัว ต้นเหตุของร่องแก้ม ให้ดีขึ้น
- แก้ปัญหาถุงใต้ตา ตาลึก ตาโหล ที่ทำให้เกิดปัญหาร่องแก้ม
- ช่วยยกกระชับใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง
- ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ริ้วรอยที่เกิดจากผิวแห้ง บริเวณร่องแก้มดูลดลง
ใครที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม?
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มที่ไม่ลึกมาก
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มจากกระดูกใต้ตา และกระดูกร่องแก้ม กระดูกหน้าแก้ม ยุบตัวลง
- ผู้ที่มีผิวแห้งจนเกิดรอยร่องแก้ม
- ผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อยจนเกิดเป็นร่องแก้มลึก การเติมฟิลเลอร์โดยเทคนิคยกกระชับจะทำให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น
วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยให้ผลลัพธ์จากการฉีดเติมร่องแก้มมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และช่วยลดโอกาสเกิดอาการแพ้ที่ไม่พึงประสงค์ได้ โดยวิธีเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีดังนี้
- 7 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรงดการทานยาแอสไพริน และยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เพราะเป็นกลุ่มยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดออกง่ายและเกิดรอยช้ำได้
- 3 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรงดการใช้สกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น วิตามินเอ เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการแวกซ์ โกน หรือดึงขนบริเวณใบหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์
- เลเซอร์บางชนิดที่ทำให้เกิดแผลเปิดหรือเลือดออก ควรงดก่อนทำฟิลเลอร์ 1 สัปดาห์หรือต้องรอให้แผลหายก่อนที่จะฟิลเลอร์
- ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ จะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อพูดคุยและประเมินลักษณะของร่องแก้ม นอกจากนี้หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่ต้องทานประจำควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเสมอ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 1 วันก่อนการฉีดฟิลเลอร์หากกังวลเรื่องอาการช้ำ
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- ฆ่าเชื่อบริเวณแก้ม, ร่องแก้ม, โหนกแก้ม, ใต้ตา หรือเฉพาะบริเวณที่จะฉีดและบริเวณโดยรอบ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ในกรณีที่ไม่แพ้ยาชา แพทย์จะทายาชาบริเวณที่จะฉีดทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อลดความเจ็บขณะฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- เมื่อครบเวลาแล้ว แพทย์จะทำการเช็ดยาชาและทำความสะอาดผิวอีกครั้ง จากนั้นใช้เข็มขนาดเล็กฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งและความลึกที่ต่างกันในแต่ละบุคคล ซึ่งจะมีทั้งเข็มแหลม (Sharp needle) และเข็มปลายทู่ (Blunt canula) เพื่อให้ผลการรักษาออกมาเข้ากับรูปหน้าแก้สามารถแก้ปัญหาร่องแก้มได้อย่างตรงจุด
- เมื่อฉีดเสร็จแล้ว แพทย์จะทำความสะอาดแผล และติดพลาสเตอร์ขนาดเล็กไว้เพื่อห้ามเลือด
- พักฟื้นและสังเกตอาการประมาณ 15 นาที จึงสามารถกลับบ้านได้ โดยแพทย์อาจสั่งให้ประคบน้ำแข็ง หากพบว่าตำแหน่งที่ฉีดเสี่ยงต่อการเกิดอาการบวม ทั้งนี้ หากแพทย์ไม่แนะนำให้ประคบน้ำแข็ง ไม่ควรประคบเองอย่างเด็ดขาด เพราะอุณหภูมิส่งผลต่อการเซตตัวของฟิลเลอร์ และการกดบี้มากเกินไปอาจทำให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนตัวได้
ขั้นตอนการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม นับว่าเป็นจุดที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังช่วยลดโอกาสเกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย โดยการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์มีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการนวด แสดงสีหน้าแรงๆบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะจะทำให้เนื้อฟิลเลอร์เซตตัวยาก หรือฟิลเลอร์เคลื่อนจนผลลัพธ์ไม่ตรงตามต้องการได้ ในช่วง 1 สัปดาห์
- หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อาจมีอาการบวมแดง หรือเขียวช้ำบริเวณที่ฉีด แต่สามารถหายได้เองภายใน 72-3 วัน และควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสในบริเวณที่ฉีด
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าสัมผัสกับความร้อน เช่น การออกกำลังกายหนัก การซาวน่า การทำเลเซอร์ผิว เป็นต้น ในช่วง 1 สัปดาห์
- หลังฉีด 1 วัน ควรงดการแต่งหน้า งดทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ AHA วิตามินซี หรือสารที่ระคายเคืองผิว
- ดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์คงสภาพได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์ 1 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจทำให้แผลเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์ 1 สัปดาห์ ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เกิดการอักเสบได้
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์ 1 เดือน งดทำฟัน เนื่องจากมีงานวิจัยว่าเพิ่มโอกาสการติดเชื้อบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มราคาเท่าไหร่?
โดยปกติแล้ว ราคาของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะขึ้นอยู่กับคลินิกและยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือก รวมถึงปริมาณ CC ที่ใช้ ซึ่งที่ Drema Clinic ราคาฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะเริ่มต้นที่ 6,800 – 15,000 บาท ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลหรือเช็กราคาที่แน่ชัด สามารถเข้ามาที่คลินิกเพื่อให้แพทย์ประเมินปัญหาผิวและปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย! หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทางดังนี้
- โทร: 080-992-6964
- Facebook: Drema Clinic Aesthetics & Laser
- LINE: @dremaclinic
- Instagram: drema.clinic
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/5fcMQwpMyHodi5Ui8
FAQ: รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
1. ฉีดร่องแก้มอันตรายไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มไม่เป็นอันตราย เพราะสารไฮยาลูรอนิก แอซิดที่ฉีดเข้าไป เป็นสารเติมเต็มที่มีลักษณะโมเลกุลเช่นเดียวกับผิวหนังของเรา อีกทั้งยังสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติแบบ 100%
2. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มห้ามอะไรบ้าง?
- 1 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- 1 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ หลีกเลี่ยงการแสดงสีหน้า เช่น การยิ้มกว้าง หัวเราะ หรือหาวกว้าง ๆ เป็นต้น เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ไหลหรือเคลื่อนตัวได้
- งดการใช้สกินแคร์ชนิดผลัดเซลล์ผิว ช่วง 1 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์
- 1 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หลีกเลี่ยงการทำหัตถการเกี่ยวกับใบหน้า เช่น การเลเซอร์ การนวดหน้า เลเซอร์กำจัดขนบริเวณใบหน้า เป็นต้น หากมีคอร์สควรทำก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 2 วัน
- 1 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การซาวน่า การออกกำลังกายอย่างหนัก การอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน การนั่งอยู่หน้าเตาร้อน ๆ เป็นต้น
3. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มดีไหม?
การฉีดเติมร่องแก้มด้วยฟิลเลอร์ จะช่วยปรับแก้ไขและเติมเต็มบริเวณร่องแก้ม ซึ่งจะช่วยให้ผิวบริเวณนั้นมีความอิ่มฟู ยืดหยุ่นได้ดีขึ้น และช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
4. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ปวดกี่วัน?
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อาจมีอาการปวดหรือบวมเข็มประมาณ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งคนไข้สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการ แต่หากหลังจาก 3 วันยังมีอาการปวดและบวมมากอยู่ แนะนำให้ติดต่อคลินิกเพื่อรับยาหรือตรวจเช็กอาการเพิ่มเติม
5. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกี่ซีซี?
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์เริ่มต้นข้างละ 1 CC แต่หากมีร่องแก้มลึกอาจใช้ข้างละ 2 CC ทั้งนี้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาร่องแก้มของแต่ละบุคคล
6. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฉีดตรงไหน?
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะฉีดลงในชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อและฉีดในจุดที่ต่ำกว่าร่องแก้มเล็กน้อย แต่จะไม่ฉีดบริเวณร่องแก้มโดยตรง เพื่อป้องกันการดึงของกล้ามเนื้อที่ใช้ยิ้ม
7. ฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี?
สำหรับยี่ห้อที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมกับปัญหาร่องแก้มของแต่ละบุคคล โดยยี่ห้อฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในการฉีด ได้แก่ Restylane Volyme, Juvederm Volux, Belotero Intense และ Definisse Restore
8. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม กี่วันเข้าที่?
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะสามารถเห็นผลลัพธ์หลังฉีดได้ภายใน 1-2 วัน และจะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังจากฟิลเลอร์เข้าที่รวมถึงอาการบวมหายไปประมาณ 4-5 วัน
9. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อยู่ได้กี่เดือน?
โดยปกติแล้ว ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะสามารถอยู่ได้ประมาณ 6-24 เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ ตำแหน่งที่ฉีด การดูแลตัวเองหลังฉีด การโดนความร้อน และความเร็วในการสลายฟิลเลอร์ของร่างกายของแต่ละบุคคล
10. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเจ็บไหม?
โดยปกติแล้ว แพทย์จะมีการใช้ยาชาและมีการฉีดยาชาร่วมด้วย ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บขณะฉีด แต่จะรู้สึกตึงที่ใบหน้าเล็กน้อย และหลังจากยาชาหมดฤทธิ์อาจรู้สึกตึง ๆ บริเวณที่ฉีด แต่อาหารเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 3-7 วัน
11. ร่องแก้มสามารถรักษา และแก้ไขได้อย่างไรบ้าง นอกจากฟิลเลอร์?
นอกจากการฉีดฟิลเลอร์จะสามารถแก้ปัญหาร่องแก้มได้แล้ว ยังมีหัตถการอีกหลากหลายวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาร่องแก้มได้เช่นกัน ดังนี้
- เครื่องยกกระชับ เช่น Ulthera, RF (Radiofrequency) รักษากรณีที่ไขมันหน้าแก้มห้อยย้อย
- ร้อยไหม จะเป็นการย้ายไขมันที่ห้อยย้อย ทำให้เห็นเป็นร่องแก้ม ให้ยกกระชับขึ้นร่องแก้มดูตื้นขึ้น
- เลเซอร์ช่วยฟื้นฟูร่องแก้ม ที่เกิดจากรอยเหี่ยวย่น ขาดคอลลาเจน ทำให้ผิวอิ่มฟูมากขึ้น
- การผ่าตัด ยกกระชับใบหน้า หรือการเสริมซิลิโคนบริเวณร่องแก้ม
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มให้ดูอิ่มฟู และอ่อนเยาว์ ไว้ใจ Drema Clinic
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม นับว่าเป็นหัตถการที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึก เพราะการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มผิวบริเวณร่องแก้มให้ดูอิ่มฟูขึ้น อีกทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยลดโอกาสเกิดร่องแก้มจากผิวที่แห้งและขาดความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ เนื่องจากปัญหาร่องแก้มมีหลายชนิด ทำให้แพทย์จะต้องทำการประเมินปัญหา และเลือกวิธีรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพราะปัญหาร่องแก้มบางชนิดอาจเหมาะกับการรักษาด้วยฟิลเลอร์แต่บางชนิดก็อาจจะไม่เหมาะ
สุดท้ายนี้ หากคุณยังไม่แน่ใจว่า จะฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี? คุณสามารถเข้ามาให้แพทย์ประเมินปัญหาผิวและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ที่ Drema Clinic ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับคนที่ต้องการจองคิวเข้ารับบริการหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ผ่านช่องทางเหล่านี้
- โทร: 080-992-6964
- Facebook: Drema Clinic Aesthetics & Laser
- LINE: @dremaclinic
- Instagram: drema.clinic
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/5fcMQwpMyHodi5Ui8