การฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกหัตถการยอดนิยมของคนยุคปัจจุบันในการปรับรูปหน้า เติมเต็มร่องลึกต่างๆ ตามร่างหายหรือแม้กระทั่งลดเลือนริ้วรอย แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้ว ยังมีฟิลเลอร์ปลอมปนกับฟิลเลอร์แท้ในตลาดไทยจำนวนมาก หากคนไข้ไม่ระวังอาจอาจส่งผลร้ายแรงต่อผิวหน้าได้หลังการทำหัตถการ วันนี้หมอจะพสมาทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ปลอมกัน
ฟิลเลอร์คืออะไร
ฟิลเลอร์ (Filler) หรือ สารเติมเต็ม เป็นสารสังเคราะห์ที่ใช้ฉีดเข้าใต้ผิวหนังเพื่อแก้ไขริ้วรอย ร่องลึก เติมเต็มให้ใบหน้าดูอิ่มฟู มักใช้ในบริเวณที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น หรือแก้ไขรูปหน้า เช่น ร่องแก้ม ขมับ ริมฝีปาก มักทำได้ทุกบริเวณที่ต้องการ
ฟิลเลอร์มีกี่ประเภท
- ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว คือ ฟิลเลอร์ที่ผลิตจากสารไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นตามธรรมชาติ โดยปกติฟิลเลอร์ประเภทนี้จะสลายตัวตามธรรมชาติภายใน 6-12 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลองฉีดฟิลเลอร์เพื่อดูผลลัพธ์ก่อนตัดสินใจฉีดแบบถาวร หรือต้องการเติมเต็มริ้วรอยชั่วคราว
- ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร คือ ฟิลเลอร์ที่ผลิตจากสารไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Hydroxyapatite) หรือ โพลีลาคติดแอซิด (Polylactic Acid) โดยปกติฟิลเลอร์ประเภทนี้จะสลายตัวตามธรรมชาติภายใน 12-24 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าฟิลเลอร์แบบชั่วคราว ข้อดีคืออยู่ได้นานกว่าแบบชั่วคราวแต่ข้อเสียคืออาจเกิดการอักเสบตามมาทำให้ ช้ำ บวมหรือแดงได้
- ฟิลเลอร์แบบถาวร คือ ฟิลเลอร์ที่ผลิตจากสารซิลิโคน เหลว หรือ ไมโครสเฟียร์ ฟิลเลอร์ประเภทนี้ไม่สลายตัวตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ถาวร แต่ข้อเสียคืออาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงตามมาเช่นการอักเสบ เป็นต้น
ฟิลเลอร์ปลอมคืออะไร
ฟิลเลอร์ปลอม ตามกฎหมายคือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยมักใช้สารอันตรายชนิดต่าง ๆ เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน หรือสารอื่นๆ ที่ไม่ได้รับการรับรองจาก อย. และทราบหรือไม่ว่าในอดีตสารที่นำมาทำเป็นฟิลเลอร์ปลอมมากที่สุดก็คือ ซิลิโคนเหลว นั่นเอง
ฟิลเลอร์ปลอม อันตรายอย่างไร
การฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่มีสารแปลกปลอมต่าง ๆ เข้าร่างกาย อาจส่งผลร้ายแรงต่อร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น
ผิวหนังอักเสบเกิดการติดเชื้อ
เพราะฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่มีการควบคุมคุณภาพมักประกอบไปด้วยสารปนเปื้อนชนิดอื่นที่ผิดกฎหมาย และเมื่อฉีดเข้าร่างกาย สารปนเปื้อนดังกล่าวจะกระตุ้นการอักเสบของผิวหนัง เกิดอาการบวมแดง คัน หรือเจ็บได้ ในคนไข้บางรายอาจเกิดเป็น รอยแผลเป็นทำให้ผิวหน้าเสียหายอย่างถาวร
ฟิลเลอร์ปลอมจับตัวเป็นก้อน
นอกจากอาการอักเสบของผิวหนังแล้ว ฟิลเลอร์ปลอมมักจะจับตัวเป็นก้อนแข็งใต้ผิวหนัวส่งผลให้หน้าของคนไข้ผิดรูป ไม่สมดุลสมดุล หรือไม่เป็นธรรมชาติ ที่สำคัญการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการแก้ไขเพราะอาจมีผลข้างเคียงตามมาเช่น รอยแผลถาวรหรือเส้นประสาทเสียหาย เป็นต้น
เส้นเลือดอุดตัน
อาจฟังดูร้ายแรงแต่นี่คือความจริง เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมที่ทำจากสารบางชนิด อาจมีความหนืดสูงเมื่ออยู่ใต้ผิวหนังและมีความเสี่ยงในการไหลไปอุดตันเส้นเลือด ทำให้เนื้อเยื่อตายเกิดการอักเสบ ในกรณีร้ายแรง คนไข้อาจสูญเสียอวัยวะ หรือตาบอดได้
อาจก่อให้เกิดพังผืดใต้ผิวหนัง
สารในฟิลเลอร์ปลอมบางชนิดอาจกระตุ้นการสร้างพังผืดใต้ผิว ส่งผลให้ผิวแข็งอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ริ้วรอยดูชัดจนผิดปกติและทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัยได้
วิธีสังเกตฟิลเลอร์ปลอม
1. ตรวจสอบเลข อย. ฟิลเลอร์แท้ต้องมีเลข อย. ของไทยกำกับบนฉลาก ตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) https://www.fda.moph.go.th/ คนไข้ควรระวังฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่มีเลข อย. หรือเลข อย. ปลอม
2. ตรวจสอบชื่อฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์แท้ต้องมีชื่อและยี่ห้อที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ ศึกษาข้อมูลชนิดของฟิลเลอร์ คุณสมบัติ เหมาะกับบริเวณไหน ควรระวังฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่มีชื่อยี่ห้อ หรือใช้ชื่อที่คล้ายกับฟิลเลอร์แท้
3. ตรวจสอบแหล่งที่มาของฟิลเลอร์ เลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมตรวจสอบรีวิว ประวัติของคลินิกและแพทย์ เลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยตรง ระวังคลินิกเถื่อน หรือคลินิกที่ไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
4. ราคา ฟิลเลอร์แท้มีราคาค่อนข้างสูง ระวังฟิลเลอร์ราคาถูกเกินจริง ฟิลเลอร์ราคาถูก อาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
5. สังเกตจากแพทย์และขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ที่ทำการฉีดควรเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถอธิบายรายละเอียดของฟิลเลอร์ได้ดี นอกจากนี้แพทย์ควรแกะฉลากฟิลเลอร์ให้คนไข้ ตรวจสอบชื่อ ยี่ห้อ เลข อย. อุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งห้องฉีดฟิลเลอร์ควรสะอาด ปลอดภัย เข็มฉีดควรเป็นเข็มใหม่ บรรจุภัณฑ์ปิดมิดชิด
6. สังเกตหลังฉีด อาจมีอาการบวมแดง ช้ำเล็กน้อยหลังฉีด อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1-2 วัน
หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวมแดง อักเสบ ร้อน เจ็บ ควรกลับไปพบแพทย์ที่ฉีดทันที
สังเกตฟิลเลอร์ปลอม ยี่ห้อ Restylane
สังเกตฟิลเลอร์ปลอม ยี่ห้อ Neuramis
สังเกตฟิลเลอร์ปลอม ยี่ห้อ Juvederm
ข้อควรสังเกตเพิ่มสำหรับฟิลเลอร์ปลอม
โดยปกติแล้วหากเข้าทำหัตถการที่เป็นฟิลเลอร์แท้ไม่ใช่ฟิลเลอร์ปลอม ก่อนฉีดคุณหมอจะมีการเปิดกล่องละให้ตรวจสอบโดยการแสกนคิวอสร์โค๊ดที่บริเวณกล่องของฟิลเลอร์ยี่ห้อนั้น ๆ ซึ่งจะสามารถระบุที่มาและเลข อย. ของฟิลเลอร์ได้ วิธีนี้สามารถเพิ่มความมั่นใจได้ว่าฟิลเลอร์กล่องใดเป็นฟิลเลอร์ปลอม
สรุปเรื่องฟิลเลอร์ปลอมและความอันตรายของฟิลเลอร์ปลอม
และนี่ก็คือเรื่องราวของฟิลเลอร์ปลอมที่คนไข้ต้องรู้ก่อนเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ เพื่อความสวยที่ปลอดภัย ไร้กังวลควรศึกษาข้อมูล เลือกคลินิกและแพทย์ที่ถูกกฎหมาย หากไม่มั่นใจในคลินิกที่กำลังตัดสินใจอยู่สามารถเข้ารับการปรึกษาและทำหัตถการได้ที่ Drema Clinic เรามีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ ประสบการณ์ด้านคลินิกความงามมากกว่า 7 ปี และยังได้รับรางวัลการันตี Gold Award Facial Aesthetic และรางวัลยอดสั่งซื้อฟิลเลอร์ Restylane สูงสุดในประเทศในปี 2023 และ 2024 อีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- Tel: 080-992-6964
- Line: @dremaclinic
- Facebook: Drema Clinic Aesthetics & Laser
- Email: dremahouse.clinic@gmail.com
ขอบคุณข้อมูลจาก: https://pr.moph.go.th/index.php?url=pr/detail/2/02/116858/