การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปปากที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ปากดูอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งการจะได้ทรงปากที่สวยได้รูป ก็จะต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะหากปล่อยปะละเลยก็อาจจะทำให้ฟิลเลอร์เสียรูปทรง หรือเกิดอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ ซึ่งในบทความนี้ Drema Clinic จะมาตอบคำถามเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปากที่หลาย ๆ คนสงสัย ไม่ว่าจะเป็นฉีดฟิลเลอร์ปากแปรงฟันยังไง? ทาลิปได้ไหม? กินอะไรได้บ้าง? พร้อมแนะนำข้อห้ามและข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ใครกำลังสงสัยเรื่องเหล่านี้อยู่ต้องห้ามพลาด!
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากเตรียมตัวยังไง?
เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทหนึ่งเข้าไปบริเวณริมฝีปาก ทำให้ต้องมีการเตรียมร่างกายให้พร้อม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยข้อปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้
- 7 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรงดการทานวิตามินอี (Vitamin E) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวและซึมเข้าไปบริเวณที่ต้องการได้ช้าลง
- 7 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรงดการทานยาแอสไพริน และยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เพราะเป็นกลุ่มยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดออกง่ายและเกิดรอยช้ำได้
- 3 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรงดการใช้สกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว
- งดการทานอาหารรสจัด โดยเฉพาะอาหารที่มีรสเค็มจัดอย่างน้อย 3 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการแวกซ์ โกน หรือดึงขนบริเวณรอบริมฝีปากอย่างน้อย 3 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์
- หากมีการจองคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือเลเซอร์หน้า ควรจะทำอย่างน้อย 3 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์
- ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ จะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อพูดคุยและประเมินลักษณะของริมฝีปาก นอกจากนี้หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่ต้องทานประจำควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเสมอ
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
การปฏิบัติตัวตามข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างเคร่งครัด จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ และช่วยให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ โดยข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก มีดังนี้
- ห้ามใช้นิ้วมือสัมผัสบริเวณที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่ว่าจะเป็นการนวด บีบ คลึง แกะ หรือเกา เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เนื้อฟิลเลอร์เคลื่อนที่จนปากเสียรูปได้
- ห้ามรับประทานอาหารที่มีรสชาติจัดจ้านและอาหารที่ร้อนจัด เพราะความร้อนจะทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว ทำให้เกิดอาการบวมและอาจทำให้รอยเข็มเกิดการติดเชื้อได้
- ห้ามรับประทานอาหารหมักดอง เนื่องจากมีส่วนประกอบของโซเดียมสูง ทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เกิดอาการบวมมากกว่าปกติ และรอยเข็มหายช้าลง
- ห้ามทานอาหารเสริม ยาและวิตามินบางชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของขิง กระเทียม และแปะก๊วย งดการทานวิตามินอี ยาแอสไพริน ยาแก้ปวดหลุ่ม NSAIDs เพราะจะทำให้เลือดออกมากขึ้น และมีโอกาสช้ำได้มากกว่าปกติ
- ห้ามถอนหรือแวกซ์ขนบริเวณริมฝีปาก เพราะจะทำให้บริเวณที่ทำการฉีดเกิดการอักเสบได้
- ห้ามสูบบุหรี่ ควรงดสูบบุหรี่เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้เลือดมีการสูบฉีดมากกว่าปกติ และทำให้บริเวณที่ฉีดเกิดการอักเสบได้
- ห้ามออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงยก หรือมีการกระแทก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์มีการเคลื่อนตัวผิดตำแหน่งจะทำให้ปากเสียรูปได้
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแปรงฟันยังไง?
ฉีดฟิลเลอร์ปากแปรงฟันยังไง? โดยในช่วง 1-2 วันแรก แนะนำให้แปรงฟันด้วยแปรงที่มีขนนุ่ม และแปรงเบา ๆ โดยใช้น้ำเย็น นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการแปรงฟันบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ และควรบ้วนน้ำเปล่าหลาย ๆ ครั้ง หลังจาก 2 วัน สามารถแปรงฟันได้ตามปกติ โดยให้แปรงอย่างอ่อนโยน และใช้ไหมขัดฟันอย่างระมัดระวัง
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากทาลิปได้ไหม?
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถทาลิปได้ แต่ควรจะรอให้ครบ 24 ชั่วโมงหลังจากฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากในช่วงแรกอาจมีอาการบวมและอักเสบจากเข็ม การใช้ลิปสติกหลังจากฉีดฟิลเลอร์อาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือติดเชื้อได้ นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงกานใช้ลิปสติกที่ล้างออกยาก เพราะการเช็ดหรือทำความสะอาดจะต้องใช้แรงเยอะ อาจทำให้ฟิลเลอร์มีการเคลื่อนตัวได้
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันดื่มแอลกอฮอล์ได้?
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีฤทธิ์กระตุ้นให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว ทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น ส่งผลให้อาการบวมเข็มหายช้าลงและอาจเกิดการอักเสบได้ นอกจากนี้หากดื่มมากเกินไปจนไม่สามารถควบคุมสติได้ ก็อาจจะเผลอเอามือไปถูหรือจับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์จนทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนผิดตำแหน่งได้
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากกินอะไรได้บ้าง?
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถทานอาหารได้ปกติ แต่ควรจะหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของหมักดอง และของดิบ แล้วเน้นการทานอาหารเหล่านี้แทน
- อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ไข่ เนื้อไก่ เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ถั่ว เป็นต้น เนื่องจากโปรตีนจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเกิดความแข็งแรง และช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
- อาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ สัปปะรด กีวี่ เป็นต้น เนื่องจากวิตามินซีจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้แผลฟื้นฟูและหายเร็วขึ้น
- อาหารที่มีวิตามินเอสูง เช่น ผักใบเขียว แครอท ฟักทอง เป็นต้น เนื่องจากวิตามินเอจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรง ช่วยให้แผลฟื้นฟูและหายเร็วขึ้น
- น้ำเปล่า เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ ทำให้การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกายจะช่วยให้ฟิลเลอร์อิ่มฟู ได้รูปมากยิ่งขึ้น และช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากจูบได้ไหม?
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดการจูบเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะการจูบอาจทำให้เนื้อฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนตัว จนรูปปากมีการผิดรูป นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการระคายเคืองหรือติดเชื้อบริเวณจุดที่ฉีดฟิลเลอร์ได้
ฉีดฟิลเลอร์ปากนวดได้ตอนไหน?
โดยปกติแล้ว ไม่ควรทำการนวด คลึง หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้เนื้อฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนตัวหรือกระจายออกไป ส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมชาติและไม่ตรงตามความต้องการ อีกทั้งยังอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือติดเชื้อได้อีกด้วย
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากนอนตะแคงได้ไหม?
สามารถนอนตะแคงได้
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันหายบวม?
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก จะมีอาการบวมเข็มเล็กน้อย เนื่องจากบริเวณปากเป็นตำแหน่งที่บอบบางและไวต่อการถูกสัมผัส ซึ่งอาการบวมนี้เป็นอาการปกติที่ไม่อันตราย และสามารถหายได้ภายใน 4-5 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ แต่หากผ่านไป 5 วันแล้วยังอาการยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงกว่าเดิม แนะนำให้รีบกลับมาให้แพทย์ตรวจเช็กและรับยาเพิ่มโดยเร็วที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันเข้าที่?
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถเห็นผลลัพธ์หลังฉีดภายใน 24-48 ชั่วโมง แต่เนื่องจากยังมีอาการบวมเข็มอยู่ทำให้เห็นผลลัพธ์ไม่ชัดเจน โดยหลังจากฟิลเลอร์เข้าที่ประมาณ 4-7 วัน จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น
เคยเป็น เริมที่ปาก ฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้หรือไม่ ?
คนที่เคยมีประวัติเริมที่ปากมาก่อน สามารถฉีดฟิลเลอร์ที่ปากได้แต่ ต้องรับประทานยาป้องกันการการเกิด เริมที่ปาก โดยเริมที่ปากคือเชื้อ Herpes virus
ฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างปลอดภัย ไว้ใจ Drema Clinic
และทั้งหมดนี้ก็คือคำตอบของคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปากที่ Drema Clinic รวบรวมมาให้ สำหรับคนที่สงสัยว่าฉีดฟิลเลอร์ปากแปรงฟันยังไง? ทาลิปได้ไหม? หรือมีข้อห้ามและข้อปฏิบัติตัวยังไง ก็สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ได้เลย
และสำหรับคนที่กำลังมองหาคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อฉีดฟิลเลอร์ปากเสริมความมั่นใจ Drema Clinic ก็พร้อมให้บริการคุณอย่างเต็มที่! เพราะเราเป็นคลินิกที่ใช้แต่ฟิลเลอร์ของแท้ ทุกเคสให้บริการและดูแลอย่างใกล้ชิดโดยหมอปุ๊น หรือ พญ. ปุนญนันท์ บุญชญา แพทย์และผู้บริหาร Drema Clinic ที่มีความเชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์โดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีประสบการณ์การดูแลเคสกว่า 20,000 ++ เคส ในระยะเวลากว่า 7 ปี นอกจากนี้เรายังมีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงให้คุณเปรียบเทียบผลลัพธ์ได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการจองคิวเข้ารับบริการ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ผ่านช่องทางดังนี้
- โทร: 080-992-6964
- Facebook: Drema Clinic Aesthetics & Laser
- LINE: @dremaclinic
- Instagram: drema.clinic
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/5fcMQwpMyHodi5Ui8