หากพูดถึงนวัตกรรมยกกระชับที่ได้รับความนิยมจากเซเลป ดารา และอินฟลูเอนเซอร์มากมาย ก็คงไม่พ้นหัตถการที่ชื่อว่า Ulthera ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ และริ้วรอยต่าง ๆ ที่สร้างความกังวลใจให้กับใครหลาย ๆ คนได้ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวหน้าเรียนเนียนขึ้นได้อีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Ulthera จึงกลายมาเป็นหัตถการยกกระชับที่ได้รับความไว้วางใจมากอย่างยาวนาน
สำหรับคนที่สนใจการทำ Ulthera ยกกระชับ ในบทความนี้ Drema Clinic จะมาแนะนำข้อมูลที่คุณควรรู้เกี่ยวกับอัลเทอร่า พร้อมทำความรู้จักว่า อัลเทอร่าคืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? เหมาะกับใคร? มีเรื่องอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำอัลเทอร่าบ้าง? ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันได้ในบทความนี้
Ulthera คืออะไร?
Ulthera คือ นวัตกรรมยกกระชับผิวด้วยเครื่องยกกระชับที่มีชื่อว่า Ultherapy หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า Ulthera โดยจะเป็นการใช้เทคโนโลยี MFU-V (Micro-Focused Ultrasound with Visualization) ที่เป็นคลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง มีลักษณะเป็นจุดไข่ปลาเล็ก ๆ ขนาด 1 mm. เรียงกันเป็นเส้นตรงลงไปใช้ยังผิวหนังชั้น SMAS (Superficial Mascular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า เพื่อกระตุ้นให้ภายในชั้นผิวเกิดความร้อนประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส
ทำให้ผิวหนังเกิดการหดตัว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และเกิดการจัดเรียงตัวกันใหม่ของอีลาสติน ซึ่งนอกจากจะช่วยยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเรียวสวย เห็นกรอบหน้าชัดขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดแล้ว ยังช่วยให้ผิวมีความเต่งตึง ยืดหยุ่น และเรียบเนียนมากขึ้น ช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าให้ลดลงและคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้ในคราวเดียว จึงไม่แปลกเลยว่าทำไม Ulthera จึงกลายมาเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมและได้รับความไว้วางใจจากคนดังมากมาย
หลักการทำงานของ Ulthera
หลักการทำงานของเครื่อง Ulthera ที่เป็นการส่งคลื่นอัลตราซาวด์ลงไปใต้ชั้นผิว ลึกถึงผิวหนังชั้น smas ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า โดยเมื่อคลื่นอัลตราซาวด์ถูกยิงผ่านชั้นผิวลงไป คลื่นพลังงานนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน และมีลักษณะการยิงเป็นจุดไข่ปลาเล็ก ๆ ขนาด 1 mm. เรียงกันเป็นเส้นตรง เพื่อกระตุ้นให้ภายในชั้นผิวเกิดความร้อนประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส ทำให้รู้สึกอุ่นหรือร้อน และเจ็บจี๊ด ๆ หน่วง ๆ บริเวณที่ยิงพลังงาน เพราะยิ่งพลังงานลงลึกสู่ชั้นผิวมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งรู้สึกเจ็บมากเท่านั้น
ระดับความลึกในการยิงของหัวยิง Ulthera แต่ละหัว
เครื่อง Ulthera จะมีหัวยิงให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบจะส่งพลังงานลงลึกในชั้นผิวที่แตกต่างกัน โดยแต่ละหัวมีส่วนช่วยในการยกกระชับผิวได้ดังนี้
- หัวยิงลึก 1.5 mm เหมาะสำหรับใช้ในการลดริ้วรอยและลดความหย่อนคล้อยบนผิวชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และชั้นหนังแท้ (Dermis)
- หัวยิงลึก 3.0 mm. เหมาะสำหรับใช้ในการกระชับผิวบริเวณใบหน้า แก้ม เหนียง กรอบตา หน้าผาก และลำคอบริเวณชั้นไขมัน (Subcutis) และยังสามารถยิงลึกถึงชั้น SMAS ในบางบริเวณที่มีชั้นผิวบางได้ด้วย ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิวได้แล้ว ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ด้วย
- หัวยิงลึก 4.5 mm. เหมาะสำหรับใช้ในการยกกระชับผิวชั้น SMAS โดยเฉพาะ เหมาะสำหรับยกกระชับผิวบริเวณแก้ม เหนียง และลำคอ
Ulthera ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
อย่างที่บอกไปว่า Ulthera จะส่งพลังงานลึกถึงผิวหนังชั้น SMAS ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูผิวได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น
- แก้ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น
- เก็บกรอบหน้า ให้ใบหน้าดูเรียวสวยได้รูปมากขึ้น
- ลดริ้วรอย ลดร่องแก้ม ร่องใต้ตา
- ยกกระชับผิว ทำให้ใบหน้าดูกระชับ และเต่งตึงมากขึ้น
- ช่วยยกหางคิ้วและหางตา
- กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
การทำ Ulthera เหมาะกับใคร?
ผู้ที่เหมาะกับการทำ Ulthera มีดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย หนังตาตก หางตาตก
- ผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด และต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวย เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก แก้มหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า
- ผู้ที่มีต้องการฟื้นฟูผิวให้กระชับ เรียบเนียน และรูขุมขนดูเล็กลง
- ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น
ทำ Ulthera บริเวณไหนได้บ้าง?
การทำ Ulthera สามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัว เช่น
- ใบหน้า ช่วยเก็บกรอบหน้าให้ดูชัดและเรียวสวยมากยิ่งขึ้น ลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย รวมถึงช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูกระจ่างใสและเต่งตึงมากยิ่งขึ้น
- รอบดวงตา ช่วยยกหางคิ้ว ยกหางตา และช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา รวมถึงปัญหาถุงใต้ตา ทำให้ดวงตาดูสดใสมากขึ้น
- ลำคอ เหนียง แก้ไขปัญหาเหนียง และปัญหาคอเป็นชั้น ช่วยให้ผิวกระชับและเต่งตึงมากขึ้น
- หน้าอก ช่วยยกกระชับผิวบริเวณเนินอกที่ดูหย่อนคล้อย ให้เต่งตึงขึ้นได้
- ท้องแขนและหน้าท้อง ช่วยให้ผิวดูกระชับ ลดความย้วยและความหย่อนคล้อยของผิวได้
ข้อดี-ข้อเสียของการทำ Ulthera มีอะไรบ้าง?
การทราบข้อดี-ข้อเสียของการทำ Ulthera จะช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบและตัดสินใจใช้บริการได้ง่ายขึ้น โดยข้อดี-ข้อเสียของการทำ Ulthera มีดังนี้
ข้อดีของการทำ Ulthera
- ช่วยยกกระชับผิวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และไม่มีการฉีดตัวยาใด ๆ เข้าสู่ร่างกาย
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียน เต่งตึง และดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
- เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ทำให้สามารถมั่นใจในความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี
- หลังทำครั้งแรกสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีประมาณ 30%
- ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ผลลัพธ์จากการทำ Ulthera สามารถอยู่ได้นาน 1 ปี
- ให้ผลการรักษาที่แม่นยำ เพราะมีหน้าจอมอนิเตอร์ที่แสดงภาพใต้ชั้นผิวแบบเรียลไทม์
ข้อเสียของการทำ Ulthera
- ขณะทำจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย โดยจะมีความรู้สึกอุ่นถึงร้อน และเจ็บหน่วง ๆ จี๊ด ๆ บริเวณชั้นกล้ามเนื้อใต้ผิว
- หลังทำอาจมีอาการบวม แดง ชา ช้ำ หรือเสียวแปลบบริเวณที่ทำ ซึ่งจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
- ราคาในการใช้บริการค่อนข้างสูง โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่ 9,000 – 80,000 บาท ขึ้นอยู่กับคลินิกที่เลือกใช้บริการ
การเตรียมตัวก่อนทำ Ulthera
เนื่องจากการทำ Ulthera เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง ไม่ใช่หัตถการที่ต้องผ่าตัด หรือต้องฉีดสารใด ๆ เข้าสู่ร่างกาย ทำให้ไม่จำเป็นต้องเตรียมมากเป็นพิเศษ เพียงแค่แจ้งให้แพทย์ข้อมูลเกี่ยวกับหัตถการอื่น ๆ ที่เคยทำมาก่อน โรคประจำตัว ประวัติการผ่าตัด และปัญหาผิวที่เป็นอยู่เพียงเท่านั้น นอกจากนี้ยังควรงดการรับประทานยากลุ่มแอสไพริน วิตามิน อาหารเสริม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น
โดยก่อนเข้ารับการรักษา แพทย์จะทำการประเมินว่า คนไข้เหมาะกับการทำ Ulthera หรือไม่ รวมถึงประเมินปัญหาบนใบหน้า วางแผนการรักษา แจ้งจำนวน Line หรือ Shot ในการยิงที่เหมาะสมให้กับคนไข้
ขั้นตอนการทำ Ulthera
หลังจากที่แพทย์ประเมินปัญหาผิวและวางแผนการปรับรูปหน้าเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะเริ่มทำการเตรียมผิวโดยการทำความสะอาดผิวหน้า และแปะยาชาทิ้งไว้ประมาณ 45-60 นาที หลังจากนั้นจะเริ่มต้นการรักษาตามแผนการรักษาที่วางไว้ โดยจะใช้ระยะเวลาในการทำประมาณ 45-60 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ
วิธีดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera
การดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera จะช่วยให้คนไข้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและอยู่ได้นานขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย โดยวิธีปฏิบัติตัวหลังทำ Ulthera ที่แพทย์แนะนำมีดังนี้
- ไม่บีบ กด นวด หรือถูแรง ๆ บริเวณที่ทำหัตถการ
- งดการทำเลเซอร์บริเวณใบหน้าเป็นเวลา 2 สัปดาห์หลังทำ
- 1 สัปดาห์หลังทำ Ulthera หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าสัมผัสกับความร้อน เช่น การซาวน่า การอาบน้ำร้อนจัด เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงแดดจัด ๆ และหมั่นทาครีมกันแดดที่มี SPF สูงอย่างสม่ำเสมอ
- ช่วง 1 เดือน หลังทำ Ulthera หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ เพื่อไม่ให้คอลลาเจนในผิวถูกทำลาย และเป็นช่วงที่ผิวหน้ากำลังสร้างคอลลาเจน
- ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการบวม
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
การทำ Ulthera อันตรายไหม? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
เนื่องจาก Ulthera เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยทั้ง FDA จากอเมริกา CE จากยุโรป และอย. ไทย นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือที่มีความปลอดภัยและแม่นยำสูง เนื่องจากมีหน้าจอที่แสดงภาพใต้ชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า Ulthera จะสามารถส่งพลังงานตรงไปยังเนื้อเยื่อบริเวณที่ต้องการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด และไม่กระทบกับเนื้อเยื่อข้างเคียง
Ulthera กี่วันหายบวม?
อาการบวมหลังทำ Ulthera นับว่าเป็นเรื่องที่สามารถเกิดได้ ไม่เป็นอันตรายใด ๆ โดยอาการบวมเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 2-3 วัน นอกจากนี้ในบางรายอาจมีอาการบวมใต้ผิว ซึ่งสามารถหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์
ผลลัพธ์ของการทำ Ulthera
หลังจากทำ Ulthera เสร็จแล้ว จะสามารถหายการเปลี่ยนแปลงได้ทันที โดยจะเห็นได้ว่า ผิวหน้าดูยกกระชับขึ้นประมาณ 30% และยกกระชับขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถเห็นผลได้ชัดเจนที่สุดภายใน 1-3 เดือน ซึ่งผลลัพธ์จากการทำ Ulthera สามารถอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับโครงสร้างผิว การดูแลตัวเอง การพักผ่อน และการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน
FAQ: รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ Ulthera
1. ทำ Ulthera ทั่วหน้ากี่ Lines?
จำนวน Lines ที่ใช้ในการทำ Ulthera ของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพผิว บริเวณที่ต้องการทำ เป้าหมายในการรักษา และการประเมินของแพทย์ผู้ทำการรักษา แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ปริมาณ Lines ดังนี้
- คนที่ต้องการแก้ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา และถุงใต้ตา ใช้อัลเทอร่าประมาณ 100-200 Lines
- คนที่ต้องการแก้ปัญหาแก้มหย่อนคล้อย ริ้วรอยร่องแก้ม และเหนียงใต้คาง ใช้อัลเทอร่าประมาณ 300-600 Lines
- คนที่ต้องการทำอัลเทอร่าทั่วหน้า ทั้งบริเวณร่องแก้ม มุมปาก ใต้ตา กรอบหน้า เหนียง ลำคอ และกรอบหน้า ใช้อัลเทอร่าประมาณ 700 Lines
2. ทำ Ulthera พักฟื้นกี่วัน?
หลังทำอัลเทอร่าเสร็จ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้นหรือดูแลเป็นพิเศษ เพียงแค่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
3. ทำ Ulthera ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ไหม?
อัลเทอร่าสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเห็นผลไวขึ้นได้ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ โบท็อก เมโสแฟต ร้อยไหม เป็นต้น แต่ควรขอคำแนะนำจากแพทย์ที่ทำหัตถการให้ด้วยเช่นกัน
4. ทำ Ulthera เจ็บไหม?
เจ็บ แต่เป็นความเจ็บในระดับที่ยังทนได้ โดยระหว่างทำจะรู้สึกอุ่น ร้อน และเจ็บจี๊ด ๆ หน่วง ๆ บริเวณชั้นกล้ามเนื้อใต้ผิว แต่ก่อนที่จะทำอัลเทอร่าแพทย์จะทำการแปะยาชาเพื่อลดความเจ็บขณะทำ แต่หากมีอาการเจ็บจบทนไม่ได้จริง ๆ ก็สามารถแจ้งแพทย์ให้ลดพลังงานลงได้เช่นกัน
5. ทำ Ulthera แล้วหน้าบวม ต้องดูแลตัวเองยังไง?
อาการหน้าบวม เป็นผลข้างเคียงทั่วไปที่ไม่อันตราย โดยอาการนี้สามารถหายได้เองภายใน 2-3 วัน แต่สามารถบรรเทาและลดอาการบวมได้ด้วยการประคบเย็น นอนหมอนสูง
ทำ Ulthera อย่างปลอดภัยและเห็นผลด้วยเครื่องของแท้ที่ Drema Clinic
การทำ Ulthera นับว่าเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงและสามารถแก้ไขปัญหาบนใบหน้าได้อย่างครอบคลุม เนื่องจากเครื่องอัลเทอร่า จะส่งคลื่นพลังงานเข้าไปสร้างความร้อนถึงผิวหนังชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นให้เกิดการหดตัว รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ริ้วรอยต่าง ๆ ดูจางลงโดยไม่ต้องผ่าตัดได้อีกด้วย
สุดท้ายนี้หากคุณกำลังมองหาหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน การทำ Ulthera ก็นับว่าเป็นหัตถการที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก หากไม่รู้ว่าจะปรึกษาการทำ Ulthera ที่ไหนดี? สามารถปรึกษา Drema Clinic ได้ตามรายละเอียดช่องทางด้านล่างนี้เลย
- Tel: 080-992-6964
- Line: @dremaclinic
- Email: dremahouse.clinic@gmail.com
- Facebook: Drema Clinic Aesthetics & Laser
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/5fcMQwpMyHodi5Ui8